
บริเวณหมู่เกาะอ่างทองแต่เดิมเป็นพื้นที่หวงห้ามของกองทัพเรือซึ่งมีโครงการจะสร้างฐานทัพเรือเพื่อควบคุมความปลอดภัยของประเทศทางด้านอ่าวไทย แต่ด้วยมี ทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น นกนานาชนิด และแนวปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี กองอุทยานแห่งชาติ ได้เขียนบทความสารคดีเรื่อง “หมู่เกาะอ่างทอง อุทยานแห่งชาติทางทะเล” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 29 มิถุนายน 2518 สรุปสาระสำคัญว่า ควรจัดหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบกับกอง อุทยานแห่งชาติได้มีโครงการอยู่แล้วเช่นกัน และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2518 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2518 ให้กรมป่าไม้พิจารณา จัดหมู่เกาะอ่างทองเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง

1. เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เป็นจุดที่มีแนวปะการังและหาดทรายขาวสะอาด
2. เกาะวัวตาหลับอยู่บริเวณอ่าวคาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่น พักผ่อนริมหาด เมื่อขึ้นไปจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยรูปร่างต่างๆ แปลกตา นอกจากนี้ยังมี ถ้ำบัวโบก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะ หินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน
3. เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล มีหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การตั้ง แค็มป์พักแรมและว่ายน้ำชมปะการัง
4. เกาะหินดับ เป็นเกาะที่มีหาดทรายที่สวยงามและชายหาดที่ยาวที่สุดในอุทยานแห่งชาติ สภาพภูมิประเทศและทัศนียภาพรอบเกาะสวยงามน่าชม
5. ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะ เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูนที่สูงสลับ ซับซ้อนแต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่ เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการยุบตัวของหินชั้นล่างทำให้เกิดบ่อยุบ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับหมู่เกาะ หรืออาจเกิด จากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในกระบวนการเดียวกับการเกิดถ้ำ
6. อ่าวหน้าทับ-ถ้ำร้าง มีหาดทรายสวยขาวสะอาด มีชายหาดยาว บรรยากาศเงียบสงบ
7. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทางเดินศึกษาธรรมชาติทางเรือ จำนวน 2 เส้น ชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ โดยเรือแคนู บริเวณรอบเกาะผี ระยะทางประมาณ 600 เมตร และบริเวณระหว่างชายหาดอ่าวคา–ชายหาดหน้าทับ ระยะทางประมาณ 2,200 เมตร
8. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ "ดำน้ำ" - เส้นทางดำน้ำแบบดำผิวน้ำ จำนวน 3 เส้นชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ บริเวณเกาะท้ายเพลา ระยะทางประมาณ 200 เมตร บริเวณเกาะสามเส้า ระยะทางประมาณ 150 เมตร บริเวณอ่าวคา เกาะวัวตาหลับ ระยะทางประมาณ 150 เมตร
9. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ "ถ้ำบัวโบก" - ถ้ำบัวโบก เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางสองของเกาะวัวตาหลับ เดินทางจากหน้าหาดอ่าวคา มีระยะทางประมาณ 300 เมตร เดินไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง จุดแรก ระยะทางประมาณ 80 เมตร สามารถมองเห็นชายหาดอ่าวคาที่มีหาดทรายขาวสะอาด และมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองโดยรอบ จุดที่สอง ระยะทางประมาณ 200 เมตร ถึงปากถ้ำบัวโบก จุดที่สาม ระยะทางประมาณ 220 เมตร ภายในถ้ำบัวโบก จุดที่สี่
10. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมวิวผาจันทร์จรัส เกาะวัวตาหลับ - จุดชมวิวผาจันทร์จรัส มีจุดวิวชม จุดแรก จุดชมวิวสลัดได 100 เมตร สามารถมองเห็นชายหาดทราย ขาวสะอาด มองเห็นเกาะผีได้อย่างชัดเจน จุดที่สอง จุดชมวิว 200 เมตร มองเห็นเกาะโดยรอบได้เกือบทั้งหมด จุดทีสาม จุดชมวิว 350 เมตร สามารถสัมพันธ์ทัศนียภาพ ของหมู่เกาะอ่างทองได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น จุดที่สี่ ขุดชมวิว 500 เมตร ถึงจุดนี้ เมื่อมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบก็หายเหนื่อยเลยที่เดียว เป็นจุดที่สูงที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น